วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559

การเตรียมตัวออกกำลังกาย

         การเตรียมตัวออกกำลังกาย
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะออกกำลังกาย นั่นหมายถึงจะต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินชีวิต ซึ่งจะต้องดำเนินทีละขั้นโดยปกติจะแบ่งเป็น 5 ขั้นตอน

ขั้นแรกคือสิ่งจูงใจ
ในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต หรือการเปลียนแปลงใดๆโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จะต้องมีสิ่งจูงใจกระตุ้นให้ทำ สำหรับท่านที่สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวทำให้ท่านสูยเสียความสามารถบางอย่างไป แต่เมื่อได้ออกกำลังกายโดยการเพิ่มพลังแล้วความสามารถบางส่วนอาจจะกลับคืนมา ท่านลองหลับตานึกถึงเรื่องที่เป็นความฝันของท่าน
  • สำหรับท่านที่ชอบเล่นกอลฟ์ หากท่านบริหารร่างกายจนแข็งแรงและสามารถเล่นกอลฟ์ได้ ท่านจะมีความสุขเพียงใด
  • สำหรับท่านที่ชอบท่องเที่ยว หากร่างกายแข็งแรงสามารถไปท่องเที่ยวทั่วโลกได้ ท่านสามารถทำความฝันให้เป็นจริงเพียงท่านทำตามแผนการออกกำลังกาย
  • สำหรับท่านที่มีโรคประจำตัว หากท่านบริหารร่างกายจนแข็งแรง ไม่ต้องพึ่งพาลูกหลานจูง ท่านสามารถช่วยตัวเองในชีวิตประจำวัน หรืออาจจะช่วยงานลูกหลาน
  • สำหรับผู้ที่มีโรคปวดข้อ หากท่านออกกำลังกายจะช่วยให้ท่านลดอาการปวดข้อ ท่านให้ท่านเคลื่อนไหวดีขึ้น
ขั้นสองเตรียมตัวออกกำลังกายสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ
  • หากท่านมีโรคประจำตัวท่านคงต้องปรึกาาแพทย์ประจำตัวของท่านก่อน เพื่อที่จะทราบว่าท่านควรจะออกกำลังกายชนิดไหน และหนักแค่ไหน
  • หาความรู้ว่าการออกกำลังกายที่ปลอดภัยทำอย่างไร
  • หากท่านเป็นโรคเหล่านี้ท่านจะต้องปรึกษาแพทย
  • ท่านแข็งแรงเพียงใด
  • เตรียมเก้าอี้ที่ไม่มีล้อ ไม่มีที่เท้าแขน ไม่ลื่นไถล ขนาดสูงพอเหมาะเมื่อนั่งเข่าจะตั้งฉากโดยที่เท้าวางกับพื้น
  • พื้นที่สำหรับออกกำลังกาย ควรเป็นที่โล่ง พื้นปูพรมเพื่อป้องกันการลื่นไถล หากไม่มีพรมควรวางเก้าอี้ชิดผนัง
  • การเลือกรองเท้าดีๆสักคู่ ลักษณะรองเท้าที่ดี
  • เสื้อผ้าที่ใส่สำหรับออกกำลังกาย ควรจะเป็นผ้าที่บางและระบายอากาศได้ดี เสื้อหลวมๆ
  • เลือกซื้อตุ้มนำหนักสัก 2-3ขนาดสำหรับใช้มือยก และสำหรับผูกข้อเท้า
ผู้หญิง
ผู้ชาย
2 ปอนด์
3ปอนด์
3 ปอนด์
5 ปอนด์
5 ปอนด์
8ปอนด์
  • อุปกรณ์สำหรับเก็บเครื่องมือออกกำลังกาย
ท่านต้องวางแผนและปฏิบัติตามแผนโดยเคร่งครัด
เมื่อถึงขั้นนี้ร่างการเริ่มที่จะแข็งแรงขึ้น ท่านเริ่มสามารถทำในสิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ ท่านต้องทำต่อ และออกกำลังเพิ่มเื่อให้ท่าแข็งแรงช่วงนี้ท่านจะแข็งแรงอย่างรวดเร็ว
ขั้นที่ห้า ชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว
หากท่าออกกำลังกายมาถึงขั้นนี้ แน่ใจได้เลยว่าชีวิตท่านเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

ศูนย์ข้อมูลการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพสำหรับคนรักสุขภาพ

                  ศูนย์ข้อมูลการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพสำหรับคนรักสุขภาพ พัฒนาศูนย์ออกกำลังกายให้มีความเหมาะสมและเอื้อต่อการให้บริการการออกกำลังกาย
http://www.fitecil.org/wp-content/uploads/2014/09/

             การเลือกการออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรงเพื่อสุขภาพที่ดี

การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งมีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งที่ส่งเสริมให้บุคคลนั้นประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ อาทิเช่น ด้านการศึกษา ด้านการทำงาน เป็นต้น เนื่องจากผู้มีสุขภาพแข็งแรงจะมีความสามารถทางร่างกาย จิตใจ และเวลามากกว่าคนที่ไม่แข็งแรง จึงอาจจะกล่าวได้ว่า การมีสุขภาพดีนั้นเป็นเรื่องที่คนทุกคนปรารถนา ดังพุทธสุภาษิตที่ว่า “ อโรคา ปรมา ลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ซึ่งการที่เราจะมีสุขภาพที่ได้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการขอพรจากสิ่งศักดิ์ แต่เราทุกคนสามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง คือการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง เช่น การพักผ่อนที่เพียงพอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น โดยเฉพาะการออกกำลังกายนั้นเป็นทั้งยาป้องกันโรค ยารักษาโรค และยาบำรุงอย่างดีที่ไม่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากไปหาซื้อ ดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อคนทุกเพศทุกวัย
การออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรง
การเลือกการออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรงเข้าไปในโปรแกรมการออกกำลังกายของคุณ จะช่วยพัฒนาการจัดท่าทางร่างกายที่ถูกต้องและช่วยเสริมบุคลิกภาพของคุณได้ นอกจากนี้การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อยังเป็นการช่วยรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ได้ เพราะกล้ามเนื้อสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเนื้อเยื่ออื่นๆแม้ในขณะพัก จึงนับเป็นผลกำไรอีกอย่างหนึ่งของการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรงเป็นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อสู้กับแรงต้านทาน คุณจึงอาจคุ้นกับคำว่าการออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน ซึ่งสามารถใช้แผ่นยางยืด ดัมเบล เครื่องยกน้ำหนัก หรือแม้แต่ใช้น้ำหนักตัวคุณเองเป็นแรงต้านในการออกกำลังกาย โดยมีเป้าหมายคือการออกกำลังกายกล้ามเนื้อมัดหลักๆทั่วร่างกายให้ได้ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ต้องไม่ใช้น้ำหนักมากจนเกินไป ให้คุณหาระดับความหนักที่พอเหมาะสำหรับตนเองในการออกกำลังกายให้ได้ยกละ 8 – 12 ครั้ง คุณอาจจะตั้งใจออกกำลังกายด้วยการไปที่ห้องออกกำลังกายหรือยกน้ำหนักที่บ้าน แต่กิจกรรมในชีวิตประจำวันหลาย ๆ อย่าง เช่น การหิ้วของหรือการทำสวนก็ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้เช่นกัน

             การออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น
– ถ้าคุณไม่ค่อยได้ยืดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ ก็มีโอกาสที่กล้ามเนื้อนั้นจะหดตัวลงและลดความยืดหยุ่น ซึ่งจะทำให้ข้อต่อยึดติดและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายแบบยืดหยุ่นกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ทุกส่วนของร่างกายเป็นประจำทุกวัน
– โยคะ พิลาทิส และ ไทเก็ก เป็นการออกกำลังกายที่เน้นความนุ่มนวลและการยืดหยุ่น การที่คุณค่อยๆผ่อนคลายและยืดกล้ามเนื้อในท่าทางต่างๆค้างท่าไว้สักระยะ พร้อมกับตั้งสมาธิจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจ จะทำให้ร่างกายมีทั้งความยืดหยุ่นและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น อีกทั้งทำให้คุณได้ผ่อนคลาย การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ร่างกายมีความสมดุลและเสริมบุคลิกภาพที่ดี
ข้อปฏิบัติที่สำคัญ
– การเดิน การเล่นฟุตบอลและการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ดีและใช้อุปกรณ์เสริมไม่มาก คุณยังสามารถออกกำลังกายโดยลำพังหรือออกกำลังกายร่วมกับเพื่อนๆได้ด้วย
– พยายามยืดเหยียดกล้ามเนื้อหรือเล่นโยคะทุกวัน เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวข้อต่อและป้องกันการบาดเจ็บ
– พยายามออกกำลังกายแบบเพิ่มความแข็งแรงให้ได้ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง

    การออกกำลังกาย

    ประโยชน์ของการเล่นโยคะ เพื่อสุขภาพและความงาม


เนื่องจากการออกกำลังกาย การเล่นกีฬาตลอดจนการบริหารร่างกายเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งของการมีสุขภาพดี และกิจกรรมการออกกำลังกายก็มีมากมายหลายชนิด  เช่น  การวิ่ง  ว่ายน้ำ  ขี่จักรยาน  เต้นรำ  รำไท้จี๋  ฝึกซิกง และฝึกโยคะ เป็นต้น กิจกรรมแต่ละอย่างมีรูปแบบการเคลื่อนไหวและวิธีการเล่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็นับว่าเป็นข้อดีเพราะจะทำให้ผู้ที่สนใจเรื่องการดูแลสุขภาพได้มีโอกาสเลือกกิจกรรมการออกกำลังกายตามความชอบและความสนใจของตน
โยคะ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของกิจกรรมการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมเพื่อบริหารกายและจิต ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน จะเห็นได้จากปริมาณของสื่อต่างๆ ได้แก่ หนังสือ วิดีโอ วีซีดี ที่เพิ่มขึ้น โยคะที่ดีต่อสุขภาพก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยเบิร์นแคลอรี่ ปราบเซลลูไลท์ และแก้ปัญหาส่วนเกินในจุดที่คุณสาว ๆ กังวลได้ ถ้ายิ่งฝึกบ่อย ๆ ยังช่วยให้คุณสาว ๆ ดูเด็กลงด้วย ประโยชน์เพียบแบบนี้ชักอยากลุกขึ้นมาฝึกโยคะแล้วสิ แต่ถ้าใครมีปัญหาไม่มีเวลาไปเข้าคอร์สโยคะที่ได้
ปัจจุบันโยคะถือเป็นการออกกำลังกายยอดนิยม ส่วนใหญ่สาวๆ ให้เหตุผลว่าเล่นโยคะแล้วร่างกายฟิตแอนเฟิร์ม หรือการเล่นเป็นประจำเป็นระยะเวลานานก็จะทำให้มีรูปร่างที่ผอมเพรียวและร่างกายที่ยืดหยุ่นดี หากแท้ที่จริงแล้วโยคะอันเป็นศาสตร์ที่กำเนิดขึ้นมานานกว่า 2000 ปีนั้น ให้ประโยชน์แก่ผู้ฝึกอย่างไร
ประโยชน์ทางด้านร่างกาย
– ร่างกายมีความยืดหยุ่น(Flexibility): ร่างกายของผู้ฝึกโยคะจะได้รับยืดเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ผู้ที่ต้องอยู่ในท่าเดิมๆ เป็นเวลานานๆ ทำให้ร่างกายตึงและยึด เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะฝึกโยคะ
– เพิ่มความแข็งแรง (Strength): ท่าโยคะหลายท่าที่ผู้เล่นจะต้องแบกน้ำหนักของตัวเองในรูปแบบที่แต่งต่างจากในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่นท่า Plank (ลักษณะเหมือนท่าวิดพื้น แต่แขนตรง ไม่งอข้อศอก)
– มีกล้ามเนื้อที่ได้สัดส่วน: ผลพวงของการมีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นคือร่ายกายจะมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น และกล้ามเนื้อที่ได้จะได้สัดส่วนทั่วทั้งร่างกาย เนื่องจากท่าโยคะต่างๆ นั้นเป็นการบริการตั้งแต่หัวจรดเท้า
– อาการปวดตามส่วนต่างๆ ในร่ายการจะลดลง : ยกตัวอย่างสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง หลังจากคุณฝึกโยคะร่างกายจะมีพัฒนาการในด้านการยืดหยุ่นและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น คนที่ปวดหลังส่วนมากเกิดจากการนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์หรือขับรถเป็นเวลานานๆ ซึ่งอาจจะทำให้เส้นตึง ยึด หรือเส้นประสาทที่กระดูกสันหลังถูกกดทับ ซึ่งถือว่าโยคะสามารถช่วยแก้ปัญหาได้เหมาะสมอย่างยิ่ง  นอกจากนี้ผู้ฝึกจะมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น
– มีการหายใจที่ดีขึ้น: คนส่วนมากมักจะหายใจไม่ลึกและไม่ให้ความสำคัญกับการหายใจเท่าที่ควร การหายใจแบบโยคี (Pranayama) เป็นการฝึกที่ต้องเพ่งความสนใจไปที่ลมหายใจและฝึกให้เราหายใจโดยใช้ปอดอย่างเต็มกำลังความสามารถซึ่งร่างกายทุกส่วนจะได้รับประโยชน์ การหายใจแบบโยคีมีหลายประเภทมาก บางประเภทช่วยให้ช่องทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้น บางประเภทช่วยทำให้ระบบประสาทส่วนกลางที่เกี่ยวกับการทำงานของร่างกาย (central nervous  system)  สงบและผ่อนคลาย  ทั้งนี้ผู้ฝึกจะได้รับประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
– โยคะเป็นการออกกำลังการที่ใช้น้ำหนักตัวเองช่วย (weight bearing): ซึ่งจะช่วยให้ความหนาแน่นของกระดูกเพิ่มขึ้น เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงวัยทองผู้เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน และกระดูกบาง


          การออกกำลังกาย, โยคะ
การออกกำลังกายหนึ่งชั่วโมง ร่างกายจะสูญเสียของเหลวได้มากถึงหนึ่งลิตร ปริมาณอาจแตกต่างกันแล้วแต่บุคคล ประเภท และความยาวนานของการออกกำลังกาย ส่วนใหญ่ของเหลวจะสูญเสียทางเหงื่อและทางอากาศที่หายใจออก หากไม่มีการชดเชยก็อาจทำให้เราตกอยู่ในภาวะขาดน้ำได้ ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพและความสามารถในการออกกำลังกายต่อไป ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญในการที่จะได้รับปริมาณของเหลวอย่างเหมาะสมทั้งระหว่าง และหลังการออกกำลังกาย
ก่อนออกกำลังกาย
การรับน้ำอย่างเต็มที่ก่อนการออกกำลังกายเป็นเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น หากอยู่ในภาวะขาดน้ำก่อนที่จะออกกำลังกาย อุณหภูมิของร่างกายจะเพิ่มเร็วขึ้นและหัวใจจะต้องทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลทางลบต่อประสิทธิภาพการทำงานและยังสามารถนำไปสู่ภาวะที่ร้ายแรง หากได้รับน้ำในระดับสูงตลอดวัน และยังไม่ได้ออกกำลังกายมาแปดถึงสิบสองชั่วโมง เราก็ควรจะมีความพร้อมที่จะออกกำลังกายในเวลาไหนก็ได้ของวัน วิธีตรวจสอบโดยคร่าว ๆ ด้วยการตรวจสีของปัสสาวะ ซึ่งควรจะเป็นสีเหลืองอ่อน ยิ่งเข้มเท่าใดแสดงว่าขาดน้ำมากเท่านั้น เมื่อรู้สึกว่าขาดน้ำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยสี่ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย หากไม่ผ่านการทดสอบสีปัสสาวะ ให้ดื่มน้ำเพิ่มอีกสองชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย ซึ่งน่าจะเพียงพอในการกระจายไปทั่วร่างกายควรตั้งเป้าไว้ว่าจะดื่มน้ำ 400- 600 มิลลิลิตร ใน 2ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย
ระหว่างการออกกำลังกาย
หากมีภาวะขาดน้ำเพียงเล็กน้อยอาจมีผลกระทบทางลบต่อประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ดีที่สุดคือการดื่มน้ำเสียแต่เนิ่นๆ ในวงรอบปกติขณะที่กำลังออกกำลังกายปริมาณน้ำที่ต้องการจะขึ้นอยู่กับปริมาณเหงื่อที่สูญเสีย ระยะเวลาที่ออกกำลังกาย สามารถคำนวณการสูญเสียของเหลวในการออกกำลังกายและประมาณการได้ว่าควรชดเชยน้ำเข้าไปเท่าใด ระหว่างและหลังการออกกำลังกาย โดยการชั่งน้ำหนักตัวเองหลังจากการออกกำลังกายเปรียบเทียบกับน้ำหนักก่อนที่จะออกกำลังกาย สำหรับทุกกิโลกรัมของน้ำหนักตัวที่สูญเสียต้องดื่มน้ำประมาณ 1.5 ลิตรเพื่อชดเชย หากเราออกกำลังกายน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง น้ำคือสิ่งเดียวที่จำเป็นในการป้องกันภาวะขาดน้ำ แต่ถ้าหากออกกำลังกายนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีคาร์โบไฮเดรต หรือแม้แต่น้ำผลไม้ จะช่วยได้มาก หากเรากำลังฝึกเพื่อการแข่งขันก็ควรจะฝึกการดื่มในขณะที่ออกกำลังกายด้วย อันนี้จะช่วยให้รู้ว่าเราต้องการน้ำเท่าใดและเมื่อใด มันเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรรอจนกระทั่งรู้สึกกระหายน้ำก่อนที่จะดื่ม เมื่อถึงเวลานั้นก็สายเกินไปแล้วเพราะอยู่ในภาวะขาดน้ำเรียบร้อยแล้ว
หลังการออกกำลังกาย
หลังออกกำลังมาอย่างหนักเราก็พร้อมที่จะดื่มซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้สดชื่นขึ้นเท่านั้น แต่มันช่วยเติมระดับของเหลวในร่างกาย ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้พักฟื้นด้วย พึงระลึกว่าเราจะต้องชดเชยของเหลวที่สูญเสียไปขณะออกกำลังกาย ไม่ควรรอจนกระทั่งเสร็จสิ้น ยิ่งชดเชยเร็วเท่าใดก็จะยิ่งฟื้นคืนสภาพได้เร็วเท่านั้น เครื่องดื่มเกลือแร่หรือน้ำที่มีเกลือเล็กน้อยจะช่วยได้มาก ลองกินของเค็มๆดูจะรู้สึกกระหายน้ำทำให้ดื่มน้ำได้มากขึ้นและชดเชยน้ำได้เร็วขึ้น อย่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนหลังการออกกำลังกายเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นยาขับปัสสาวะ ซึ่งหมายความว่ามันจะเอาน้ำออกจากร่างกายเราโดยการเพิ่มปริมาณของปัสสาวะที่ไตของเราผลิต

           เต้นแอโรบิค ช่วยให้ปอดและหัวใจทำงานได้ดีขึ้น


การทำกิจกรรมที่ช่วยสร้างเสริมให้ร่างกายคงไว้ซึ่งสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย การออกกำลังกาย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และระบบไหลเวียนโลหิต รวมทั้งสร้างเสริมทักษะทางกีฬา การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันโรคต่างๆ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยสร้างเสริมสุขภาพจิตและลดความเครียดได้ หลายคนก่อนจะออกกำลังกายมักจะอ้างเหตุผลของการไม่ออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ปัญหาเกี่ยวกับอากาศ ทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย แต่ลืมไปว่าการออกกำลังกายอาจจะให้ผลดีมากกว่าสิ่งที่เขาเสียไป
การออกกำลังกายเป็นการเผาผลาญไขมัน
เมื่อไขมันในร่างกายถูกใช้ไป เลือดของเราก็เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้ปริมาณไขมันในเลือดลดลง และไตรกลีเซอไรด์ลดลงเช่นกัน ทำให้ลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน เพิ่ม HDL ซึ่งเป็นตัวช่วยลดการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ลดน้ำตาลส่วนเกิน ป้องกันโรคเบาหวาน เพราะว่าเวลาเราออกกำลังกาย ร่างกายจะต้องใช้พลังงานมาก ร่างกายจะไปดึงเอาน้ำตาลมาแปลงเป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลส่วนเกินในเลือดต่ำลง ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานได้
ในชีวิตประจำวันของผู้ที่อยู่ในวัยทำงานส่วนใหญ่มักจะบอกเสมอว่าไม่มีเวลาออกำลังกาย เพราะต้องทำงานประจำ แต่อย่าลืมว่าการออกกำลังกายมีความสำคัญที่จะทำให้สุขภาพของท่านสมบูรณ์แข็งแรง เช่นเดียวกับอาหารที่รับประทานและน้ำที่ดื่มเข้าสู่ร่างกาย การออกกำลังกายแบบแอโรบิคเป็นการออกกำลังกายที่มีระยะเวลานานพอสมควร การออกกำลังกายแบบแอโรบิคเป็นกิจกรรมที่มีการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้ได้ต่อเนื่อง และเน้นจังหวะอย่างสม่ำเสมอซึ่งเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจและปอดของมนุษย์มีการทำงานมากขึ้น มากกว่าการทำงานในขณะพัก
การออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิค เดิน หรือวิ่ง
ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่เน้นความแข็งแรงของปอด และช่วยส่งเสริมให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น โดยสังเกตได้ว่า ครั้งๆแรกที่ไปเต้นแอโรบิค วิ่ง หรือเดินไกลๆจะมีอาการหอบและเหนื่อยง่ายมาก แต่พอไปออกกำลังกายบ่อยๆเข้า จะสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น และเหนื่อยช้าลง เนื่องจากว่าปอดและหัวใจของเราทำงานได้ดีขึ้นนั้นเอง การออกกำลังกายแบบนี้จะสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้พอควร แต่ไม่ได้ทำให้ปัญหาน้ำหนักเกินหรือด้านสัดส่วนหมดไปในเวลาอันสั้น
การออกกำลังกาย, หอบและเหนื่อยง่าย, เต้นแอโรบิค

          การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่ดีสำหรับร่างกาย
การมีสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ซึ่งประกอบด้วยการดูแลสุขภาพของตัวเราเองอย่างเหมาะสมถูกต้อง เช่น การรับประทานอาหาร อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ การป้องกันโรค การใช้ไลฟ์สไตล์ (Life Style) ที่ถูกต้องไม่ทำลายสุขภาพของตัวเราทั้งระยะสั้นและระยะยาว และที่สำคัญคือ การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกาย(กล้ามเนื้อ)มีความแข็งแรง มีความสดชื่น กระฉับกระเฉง เป็นต้น ซึ่งวิธีการออกกำลังกายนั้นทำได้หลายวิธีแตกต่างกันเช่น การเดินเร็ว ๆ การวิ่งเยาะ ๆ การเต้นแกว่งแขน ยกขา อยู่กับที่ ในบ้าน ในสนามหน้าบ้าน การรำมวยจีน ไทเก็ก การใช้ไม้พลองประกอบ การทำโยคะ การเต้นแอโรบิคที่ถูกต้อง และที่สำคัญมาก ๆ คือ จะต้องดูตัวเราเองว่า อายุ สุขภาพ ของเราเหมาะกับการออกกำลังกายแบบไหนดีที่จะมีประโยชน์เหมาะกับร่างกายของเรา มากที่สุด ไม่ใช่ว่าจะออกกำลังกายตามคนอื่น ๆ
การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่ดีสำหรับร่างกายของคุณ ซึ่งควรจะออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 3 – 5 วันต่อสัปดาห์นะคะ ถ้าคุณสามารถทำได้ การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆน้อยลง เพิ่มความแข็งแรง และยังสามารถช่วยลดความอ้วนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ การออกกำลังกาย เป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างเสริมให้ร่างกายคงไว้ซึ่งสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย การออกกำลังกาย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และระบบไหลเวียนโลหิต รวมทั้งสร้างเสริมทักษะทางกีฬา การออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่นโรคหัวใจ, โรคระบบไหลเวียนโลหิต, เบาหวาน, และโรคอ้วน นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยสร้างเสริมสุขภาพจิตและลดความเครียดได้
การออกกำลังกาย ไม่ได้หมายถึงการต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกายเป็นการแข่งขันกับตัวเอง หลายคนก่อนจะออกกำลังกายมักจะอ้างเหตุผลของการไม่ออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ปัญหาเกี่ยวกับอากาศ ทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย แต่ลืมไปว่าการออกกำลังกายอาจจะให้ผลดีมากกว่าสิ่งที่เขาเสียไป
หลายท่านไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเมื่อเริ่มออกกำลังกายอาจจะทำให้เหนื่อยง่าย วิธีที่ดีที่สุดของการเริ่มต้นออกกำลังกาย คือให้เริ่มออกกำลังกายจากกิจวัตรประจำวัน เช่น
– ใช้การเดินหรือขี่จักรยานเมื่อไปที่ไม่ไกล
– หยุดใช้รถหนึ่งวันแล้วใช้การเดินไปทำงานสำหรับผู้ที่บ้านและที่ทำงานไม่ไกล
– ใช้บันไดแทนการขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อน
– ขี่จักรยานรอบหมู่บ้าน
– ทำงานบ้าน เช่นทำสวน ล้างรถ ถูบ้าน
– ขึ้นบันไดหลายขั้น
– ขุดดินทำสวนนานขึ้น
          เพราะฉะนั้นการออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นถ้าเราไม่ออกกำลังหรือออกกำลังไม่พอ ร่างกายก็ผิดปกติ หย่อนสมรรถภาพ บางครั้งถึงกับเป็นโรค ผู้ที่เป็นโรคเพราะเหตุดังนี้ หากได้ออกกำลังก็หายได้ ดังนั้น จึงเปรียบการออกกำลังว่าเป็นอาหารก็ได้ เป็นยาก็ได้

ที่มา http://www.fitecil.org/tag/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2/

ศูนย์กีฬา สนามกีฬาในร่ม 

ศูนย์กีฬา สนามกีฬาในร่ม

       สนามกีฬาในร่ม 1 เป็นอาคารในร่มที่มีลักษณะเป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์ พื้นที่ 4,100 ตารางเมตร สามารถเล่นกีฬาได้หลายชนิด เช่น ตะกร้อ วอลเล่ย์บอล บาสเกตบอล เทเบิลเทนนิส แบดมินตัน ยูโด มวย ยิมนาสติก และกีฬาชนิดอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยจากพื้นที่อย่างเต็มที่ ในปี พ.ศ. 2552 ศูนย์กีฬาแห่งจุฬาฯ ได้ปรับบริเวณพื้นที่ว่างด้านหลังสนามกีฬาในร่มเป็นสนามไดร์กอล์ฟ ในปี พ.ศ. 2554 ได้ปรับภูมิทัศน์ด้านหน้าสนามกีฬาในร่ม 1 เป็นสนามพัตกอล์ฟ ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งการใช้งานและเพิ่มความสวยงามให้แก่ภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าของอาคารอีกด้วย สนามกีฬาภายในอาคารในร่ม 1 มีดังนี้

1. สนามแบดมินตัน ลักษณะปูพื้นยาง จำนวน 4 สนาม
2. สนามวอลเลย์บอล  ลักษณะพื้นไม้ปาเก้ จำนวน 1 สนาม
3. สนามบาสเกตบอล และสนามฟุตซอล ลักษณะพื้นไม้ปาเก้ จำนวน 2 สนาม
4. สนามตะกร้อ ลักษณะพื้นยาง จำนวน 1 สนาม
5. สนามเทเบิลเทนนิส ลักษณะพื้นไม้ปาเก้ มีโต๊ะเทเบิลเทนนิส  จำนวน 10 ตัว
6. สนามไดร์กอล์ฟและสนามวอลเลย์บอลชายหาด (ด้านหลังกีฬาในร่ม) ลักษณะพื้นทราย ขนาด 450 ตารางเมตร และสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสนามวอลเลย์บอลชายหาดได้อีกด้วย
7. สนามพัตกอล์ฟ (ด้านหน้าสนามกีฬาในร่ม)  ศูนย์กีฬาแห่งจุฬาฯ ได้ปรับภูมิทัศน์ด้านหน้าสนามกีฬาในร่มโดยปรับปรุงเป็นสนามพัตกอล์ฟ ทั้งนี้ได้รับประโยชน์ 2 ด้าน คือในสวยงาม และเพิ่มพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย
8. หน้าผาเทียม ประโยชน์เพื่อฝึกปีนหน้าผาและออกกำลังกาย จำนวน 1 หน้าผา

DSC_0001     DSC_0178
DSC_0184     DSC_0877
DSC_0876     DSC_0880
DSC_0028     DSC_0026
DSC_4568     DSC_4577
            
            
            
            
            
            
            
            
            

ที่มา http://www.cusc.chula.ac.th/wordpress/indoor-stadium-sports-centre-1-cu/

ศูนย์กีฬาทางน้ำ


1. ศูนย์กีฬาทางน้ำ

            กีฬาทางน้ำ

1. กีฬาว่ายน้ำ

2.กีฬาแข่งเรือยาว

3.กีฬาแข่งเรือใบ

4.กีฬาโปโลน้ำ

5.กีฬาเวกบอร์ด

  1.1  ความหมายและความสำคัญของกีฬา
       ถึงแม้ว่ากีฬาจะมีรูปแบบที่หลากหลายแต่การที่จะอธิบายว่ากีฬามีความหมายและความสำคัญอย่างไรให้ชัดเจนนั้น ควรจะวิเคราะห์จากลักษณะของการปฏิบัติกิจกรรมและเป้าหมายของกิจกรรมกีฬาชนิดนั้น ซึ่งสรุปได้ดังนี้
       กีฬา หมายถึง การเล่นในลักษณะของการแข่งขัน เพื่อให้เกิดความสนุกสนานและเพื่อแสดงออกถึงความสามารถ ตลอดจนความสวยงามด้วยการเคลื่อนไหวร่างกาย ให้เป็นไปตามกฎกติกาและระเบียบที่วางไว้ โดยมีจุดมุ่งหมายหลายประการ เช่น การเล่นเพื่อสุขภาพ เพื่อความเพลิดเพลิน เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่ม และเพื่อการแข่งขันซึ่งเน้นความเป็นเลิศในระดับต่าง ๆ จากความหมายที่กล่าวมา เมื่อวิเคราะห์เกี่ยวกับความสำคัญของกีฬาโดยพิจารณาจากธรรมชาติของกีฬา นอกจากจะสร้างเสริมสุขภาพอนามัยให้กับผู้เข้าร่วมในกิจกรรมกีฬาแล้ว กฎ กติกา และระเบียบวิธีการเล่นยังมีส่วนช่วยสร้างเสริมความมีวินัยให้กับตัวบุคคลได้อีกด้วย และการแข่งขันในกิจกรรมกีฬายังช่วยส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมรู้จักการทำงานในลักษณะการเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี ฝึกให้รู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ตลอดจนร็จักใช้ไหวพริบและกลเม็ดในการตั้งรับและรุกไล่ฝ่ายตรงข้าม
    1.2 การแบ่งประเภทของกีฬา
       หากนักเรียนช่วยกันรวบรวมรายชื่อของกีฬาชนิดต่าง ๆ ทั้งที่เป็นกีฬาประชาชาติและกีฬาต่าง ๆ ที่รู้จัก จะพบว่ามีรายชื่อของชนิดของกีฬามากมายด้วยกัน ซึ่งหากนำมาจัดแบ่งจะแบ่งออกได้หลากลักษณะ เช่น
       จัดแบ่งตามกลุ่มกีฬาที่เล่นตามลักษณะภูมิประเทศที่ใช้จัดการแข่งขัน ได้แก่ กลุ่มกีฬาทางน้ำ กลุ่มกีฬาทางบก และกลุ่มกีฬาทางอากาศ
       จัดแบ่งตามมาตรฐานความนิยมของกีฬส ได้แก่ กีฬาพื้นเมือง และกีฬาสากล
       จัดแบ่งตามลักษณะของกีฬานั้น ๆ ซึ่งแบ่งได้มากมาย เช่น กีฬาประเภทกรีฑา กีฬาประเภทยิมนาสติก กีฬาประเภทต่อสู้ กีฬาประเภทใช้เป้าเป็นตัววัดความแม่นยำ กีฬาประเภทใช้ลูกบอลปาเข้าเป้ากีฬาประเภทใช้สนามแบ่งแดนเพื่อการแข่งขัน กีฬาประเภทใช้ไม้ตีประกอบลูกบอล กีฬาประเภทใช้สัตว์หรือยานพาหนะประกอบในการแข่งขัน
       จากรูปแบบของการจัดแบ่งประเภทของกีฬามีความชัดเจนขึ้น ได้มีการจัดแบ่งประเภทกีฬาออกตามลักษณะจำนวนผู้ที่เข้าร่วมแข่งขัน แบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ กีฬาประเภทเดี่ยวและกีฬาประเภททีม
       1. กีฬาประเภทเดี่ยว หมายถึง กีฬาที่ประกอบด้วยผู้เล่นหรือผู้เข้าแย่งขันฝ่ายละคนที่ลงทำการแข่งขันหรือลงประลองในกีฬาชนิดนั้น ๆ โดยผลการแพ้ชนะมาจากผู้เล่นเพียงคนเดียว เช่น กีฬามวยไทย หรือมวยสากล กีฬายูโด กีฬาฟันดาบ
       2. กีฬาประเภททีม หมายถึง กีฬาที่ประกอบด้วยผู้เล่นหรือผู้เข้าแข่งขันฝ่ายละ 2 คนขึ้นไป ลงแข่งขันหรือลงประลองในชนิดกีฬานั้น ๆ โดยผลการแพ้ชนะมาจากผู้เล่นทั้งทีม เช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล รักบี้ฟุตบอล บาสเกตบอล ฮกกี้ เนตบอล
    1.3 ทักษะการเคลื่อนไหวพื้นฐานในการเล่นกีฬา
     หากนักเรียนสังเกตเกี่ยวกับลักษณะท่าทางของผู้เล่นที่เล่นกีฬาว่ามีการเคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะใดบ้าง และลักษณะเหล่านั้นมีความจำเป็นที่จะนำมาใช้ในกีฬาชนิดใดบ้าง โดยเบื้องต้นอาจพบทักษะการเคลื่อนไหวในหลายลักษณะซึ่งเรียกรวม ๆ ว่า ทักษะการเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน ซึ่งมีทั้งทักษะการเคลื่อนไหวแบบอยู่กับที่ แบบเคลื่อนที่ และแบบประกอบอุปกรณ์ เพื่อให้นักเรียนมีความสามารถในการนำทักษะการเคลื่อนไหวดังกล่าวมาใช้ในการเล่นกีฬาทั้งประเภท
 ที่มา  http://dict.longdo.com/search

ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน ซอยเฉลิมพระเกียรติ 43 ใกล้สวนหลวง ร.9

ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน

ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน

ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน เปิดเส้นทางปั่นจักรยาน

    ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน ซอยเฉลิมพระเกียรติ 43 อาคาร ติดกับสวนหลวง ร.9 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ บนพื้นที่ 600 ไร่ สำหรับผู้รักสุขภาพ มีเครื่องออกกำลังกาย มีเส้นทางปั่นจักรยานประมาณ 4 กิโลเมตร พร้อมกีฬาทางน้ำ เรือใบ เรือคายัค วินด์เซิร์ฟ
บึงหนองบอน    บึงหนองบอน เป็นโครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริ มีเนื้อที่ 600 ไร่ มีบึงน้ำขนาดใหญ่ 3 บึง และมีการปรับภูมิทัศน์ นำพื้นที่มาใช้ประโยชน์ เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 103 ถ.เฉลิมพระเกียรติ ซ.43 เข้าซอยมาประมาณ 500 เมตร หาที่จอดรถเลย หาไม่เจอขับรถมาทางสวนหลวง ร.9 ก็ได้ค่ะ ที่นี่มีกีฬาทางน้ำหลายประเภทให้ลองทั้งเรือใบ วินด์เซิร์ฟ เรือคายัค เรือกรรเชียง และที่พิเศษสำหรับนักปั่นจักรยาน มีสนามขนาดเล็กความยาวรอบสนามประมาณ 4 กิโลเมตร ในช่วงผ่านชุมชนมีการจัดการที่ดีให้คนปั่นจักรยานชะลอการขี่ ที่นี่เราสามารถเริ่มปั่นจักรยานได้ตั้งแต่เช้ามีคนนำจักรยานมาปั่นมากมาย เพื่อนเยอะเลยค่ะ
บึงหนองบอน
ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน
ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน เปิดให้สมัครสมาชิกเฉพาะวันธรรมดา เวลาราชการ และในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-17.00 น. ผู้สนใจที่จะใช้บริการต้องสมัครสมาชิกโดยต้องเตรียมหลักฐานการสมัคร คือ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 หรือ 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง เสียค่าสมัครรายปีละ 40 บาทเท่านั้นเอง หลังจากสมัครเป็นสมาชิกแล้วสามารถใช้บริการเบิกอุปกรณ์กีฬาทางน้ำได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แต่สำหรับผู้มาใช้บริการที่ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอนทั่วไปนั้น สามารถปั่นจักรยานตั้งแต่เช้าถึง 19.00 น. และโรงเก็บเรือวันธรรมดาใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-19.00 น.
บึงหนองบอนหลังจากสมัครเป็นสมาชิก ถ้าสนใจจะมีเจ้าหน้าที่สอนกีฬาทางน้ำ ทั้งเรียนเรือใบ เรียนวินด์เซิร์ฟ เรือคายัค เรือกรรเชียง เรียนได้ 2 รอบ  ในเวลา 14.00 น. และ 16.00 น. หากสนใจเรียนต้องไปก่อนเวลา เพื่อเตรียมอุปกรณ์
ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน นอกจากจะมีกีฬาทางน้ำ และเส้นทางปั่นจักรยานรอบบึงแล้ว  ยังมีเส้นทางให้กับนักวิ่งรอบบึงน้ำหนองบอนด้วย โดยสามารถวิ่งออกกำลังกายได้ มีทั้งสนามตะกร้อ สนามบาสเก็ตบอลกลางแจ้ง อย่างละ 2 สนาม มีสนามฟุตบอลขนาดใหญ่บนน้ำบึงหนองบอนให้ประลองกัน พร้อมมีอุปกรณ์ให้ออกกำลังกายให้เล่นแบบเพลิน ๆ ที่สำคัญมีห้องน้ำไว้ให้บริการอย่างสะดวกสบาย 
การเดินทางไป ศูนย์กีฬาทางน้ำหนองบอน สามารถไปได้หลายวิธี ดังนี้
  1. รถโดยสาร ขสมก. แบบยูโร สาย 206 ลงปากซอยเฉลิมพระเกียรติ 43
  2. รถเมล์แดงจากปากซอยอุดมสุข สุขุมวิท 103 เข้าซอยมาใกล้สวนหลวง ร.9 ลงหน้าสวนได้เลย
  3. ขับรถส่วนตัวมาทางถนนศรีนครินทร์ เข้าแยกอุดมสุข เลี้ยวซ้ายมาทางสวนหลวง ร.9 ประตูดาวเรือง ซอยเฉลิมพระเกียรติ 43 อยู่ห่างจากสวน 200 เมตร
ที่มา http://www.star-traveller.com/2015/%E0%B8%9A%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%99/

กีฬา คือ.....

กีฬา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี



กีฬาในวัยเด็ก จากภาพคือกีฬาฟุตบอลกีฬาประเภททีมที่ให้โอกาสในการออกกำลังกายและเพิ่มทักษะในการปฏิสัมพันธ์
กีฬา (อังกฤษSports, Games) เป็นกิจกรรมหรือการเล่นเพื่อความสนุกเพลิดเพลินหรือเพื่อความแข็งแรงของร่างกาย หรือเพื่อผ่อนคลายความเคร่งเครียดทางจิต รวมไปถึงกิจกรรมปกติหรือทักษะที่อยู่ภายใต้กติกาซึ่งถูกกำหนดโดยความเห็นที่ตรงกันโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพักผ่อน การแข่งขัน ความเพลิดเพลิน ความสำเร็จ การพัฒนาของทักษะ หรือหลายสิ่งรวมกัน กีฬาเป็นกิจกรรมที่ควบคู่กับการแข่งขัน และระบบคะแนน
กีฬาหลายประเภทได้มีการจัดการแข่งขันในระดับเขต ประเทศ และระดับโลก ซึ่งกีฬาหลายชนิดได้มีการใส่เข้าและนำออกโดยการปรับปรุงของทางคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เช่น รักบี้ ลาครอสส์ หรือ โปโล

น้ำใจนักกีฬา
น้ำใจนักกีฬาเป็นทัศนคติที่มีความพยายามให้เกิดความยุติธรรมและอัธยาศัยไมตรีต่อเพื่อนร่วมทีมหรือคู่แข่ง จรรยาบรรณและความเป็นหนึ่งเดียว และชัยชนะ
น้ำใจนักกีฬาแสดงถึงความปรารถนาว่ากิจกรรมจะสนุกในตัวเอง แนวคิดที่รู้จักกันดีจากนักข่าวกีฬาชื่อ แกรนต์แลนด์ ไรซ์ ว่า "ไม่สำคัญว่าคุณจะชนะหรือจะแพ้ แต่สำคัญว่าคุณจะเล่นอย่างไร" และแนวคิดโอลิมปิดสมัยใหม่โดย Pierre de Coubertin ว่า "สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่การชนะ แต่เป็นการมีส่วนร่วม" ต่างเป็นคำพูดทั่ว ๆ ไปที่อธิบายแนวคิดนี้
การโกง
หลักสำคัญของกีฬาคือผลลัพธ์จะต้องไม่มีการกำหนดผลการแข่งขันไว้ก่อน ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีโอกาสชนะเท่ากัน กฎจะต้องรับประกันว่าจะเกิดความยุติธรรมขึ้น แต่ผู้แข่งขันสามารถแหกกฎเพื่อเอาเปรียบได้
ผู้เข้าแข่งขันอาจเลือกโกงเพื่อให้ตนชนะ หรือเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายแอบแฝง การพนันผลการแข่งขันกีฬาสร้างแรงจูงใจให้เกิดการกำหนดผลการแข่งขันตายตัว (match fixing) ให้ผู้เข้าแข่งขันทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ
การใช้ยาเพิ่มสมรรถภาพ
ธรรมชาติของการแข่งขันกีฬาส่งเสริมให้นักกีฬาเพิ่มสมรรถภาพของตนเองผ่านการใช้ยา หรือวิธีการอื่น ๆ เช่น เพิ่มปริมาตรของเลือดในร่างกาย
กีฬาหลายชนิดที่รับรองโดยคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ต้องนำไปทำโปรแกรมทดสอบ มองหารายชื่อยาต้องห้าม และสั่งพักหรือคว่ำบาตรผู้เข้าแข่งขันที่ตรวจพบสารต้องห้าม
ความรุนแรง
ความรุนแรงในกีฬาจะเกี่ยวกับการข้ามเส้นระหว่างการแข่งขันที่ยุติธรรมและความรุนแรงก้าวร้าวโดยตั้งใจ บางครั้งนักกีฬา โค้ช แฟนคลับ และพ่อแม่แสดงพฤติกรรมรุนแรงต่อคนหรือสถานที่ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี ความโกรธ หรือการเฉลิมฉลองอย่างผิดวิธี การจลาจลนั้นมีอยู่ทั่วไปและเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในการแข่งขันกีฬาทั้งในและระหว่างประเทศ
ชนิดของกีฬา
ชนิดของกีฬา อาจแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มหลักๆ คือ
ประเภทการแข่งขันความเร็ว
ประเภทการแข่งเป็นคู่แข่งขัน
ประเภทการบรรลุผล
ประเภทอี่นๆ
กีฬาเพื่อสุขภาพ
จะเป็นการเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน ผ่อนคลายจะได้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เช่น โยคะ เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ กายบริหาร แอโรบิคแดนซ์ เต้นรำ ดิสโก เปตอง

ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8%B2